หากคุณสังเกตการนอนของลูกน้อยในแต่ละวันแล้วรู้สึกว่ามีความผิดปกติ อย่างการที่ลูกนอนกรนนั้น ถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรนิ่งนอนใจเลยทีเดียว เพราะขนาดในวัยผู้ใหญ่อย่างเราที่มีการนอนกรนนั้นก็ยังเกิดการเสียชีวิตกันได้ แล้วในวัยเด็กที่อวัยวะภายในและภายนอกยังไม่สมบูรณ์แบบนี้ จะไม่ยิ่งอันตรายกว่าหรือ วันนี้บทความของเราจึงได้นำความรู้ดี ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณแม่เกี่ยวกับการที่ลูกนอนกรนมาฝากกัน ว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไรให้ลูกนั้นนอนได้อย่างเป็นปกติกันบ้าง
ลูกนอนกรนแบบนี้ อันตายไหม ทำยังไงให้ลูกหายนอนกรน
ลูกนอนกรน เกิดจาก การที่ทางเดินหายใจส่วนต้นมีการตีบแคบ ที่มักจะเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ และมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยังหลับอยู่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งการที่เกิดสิ่งนี้ขึ้นก็จะทำให้เด็กนั้นขาดออกซิเจนในขณะที่หลับ อีกทั้งยังส่งผลงให้หลอดเลือดและหัวใจมีการทำงานที่หนักขึ้นตามไปด้วย และนับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาสำหรับการนอนกรนในเด็ก เพราะหากปล่อยปะละเลยและไม่รีบเร่งในการรักษา ก็อาจจะทำให้ลูกน้อยนั้นหยุดหายใจขณะที่กลับที่ส่งผลให้ถึงแก่ชีวิตได้นั่นเอง
แต่ในบางรายที่มีการนอนกรนนั้น ก็อาจทำให้พัฒนาการต่าง ๆ มีความผิดปกติไป เนื่องจากอวัยวะภายในทำงานไม่สอดคล้องกันอย่างไม่ปกติ ที่จะส่งผลทั้งต่อทางร่างกายและสติปัญญาได้นั่นเอง อีกทั้งยังอาจทำให้เด็กนั้นมีการเติบโตช้า รวมไปถึงยังอาจมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวได้ตามไปด้วย หรือในบางรายก็อาจจะมีปัญหาในการฉี่รดที่นอนที่ไม่อาจะห้ามตัวเองหรือไม่รู้สึกในขณะที่หลับแล้วฉี่ออกมา และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องของปัญหาในการเข้าสังคมที่อาจจะทำให้ลูกของคุณเข้ากับสังคมได้ยากในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นการรักษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการนอนกรนในเด็กที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะสามารถทำการรักษาได้อย่างถูกต้องและมีความเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้นก็พบว่ามีอัตราของเด็กที่นอนกรนราวร้อยละ 10 ในจำนวน ร้อยละ 1 ของเด็กก่อนวัยเรียนอีกด้วย ดังนั้นการรักษาเกี่ยวกับปัญหาการนอนการนอนกรนของลูก จึงถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกสามารถเติบโตได้อย่างเป็นปกติและไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาด้วยนั่นเอง
www.bangkokhospital.com
อ่านต่อที่ คู่มือแม่ลูกอ่อน