คุณแม่หลาย ๆ คนก็คงจะทุกข์ใจและมีความกังวลอยู่ไม่น้อยเลยค่ะในเรื่องของลูกปวดท้องที่เรานั้นก็เป็นกังวลมาก ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงค่ะที่อาหการปวดท้องในเด็กนั้น บางครั้งก็สามารถที่จะทุเลาลงได้เอง แต่ในบางครั้งนั้นมันอาจจะมีอันตรายมากกว่าการให้ลูกทานยาแล้วนอนพักก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้บทความของเราจะพาทุกท่านไปดูกันค่ะว่าทำไมลูกของเราถึงปวดท้องบ่อยจังแล้วจะมีอาการเสี่ยงเป็นโรคอะไรหรือไม่ มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ลูกปวดท้อง เพิ่งหายไป ปวดอีกแล้ว ทำยังไงดี
เป็นกังวลทุกครั้งค่ะที่ลูกของเรามักจะปวดท้องอยู่บ่อย ๆ ซึ่งบางทีก็สามารถหายเองได้ก็จริงแต่บางครั้งก็ปวดเสียจนน่ากลัว จนเรานั้นต้องพาไปหาหมอกันอยู่บ่อยครั้ง และวัยเด็กนี่แหละค่ะที่เป็นวัยที่จะปวดท้องได้บ่อยมากที่สุด เพราะเรื่องของอาหารนั้นต้องตกถึงท้องอย่างตรงเวลา อีกทั้งยังต้องทานอาหารที่หลากหลาย ซึ่งก็นั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกปวดท้องได้อยู่บ่อย ๆ ด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่าอาการปวดท้องแบบไหนที่ยังสามารถคลายเองได้และอาการปวดท้องแบบไหนที่อาจเป็นโรคที่ทำให้ต้องผ่าตัดกันบ้าง
อาการปวดท้องของเด็ก ๆ นั้น มีการแสดงออกที่หลากหลายมาก ๆ ค่ะ ซึ่งหากเป็นในเด็กทารกหรือเด็กที่ยังพูดไม่ได้นั้น เรื่องของอาการอาเจียนและการร้องไห้งอแงแบบไม่รู้สาเหตุถือเป็นอาการแรก ๆ ของอาการปวดท้องเลยล่ะค่ะ แต่หากลูกของคุณสามารถพูดได้แล้วว่าปวดท้องบริเวณไหนนั้นก็สามารถที่จะทำการคาดเดาได้อยู่ว่าปวดแบบนี้ต้องทานอะไรถึงจะหาย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะโรคบางอย่างก็ไม่อาจรักษาได้ด้วยยา ซึ่งโรคที่มากับการอาการปวดท้องก็มีดังนี้
โรคไส้ติ่งอักเสบ
สำหรับโรคไส้ติ่งอักเสบนั้น คุณแม่สามารถตรวจดูได้เลยค่ะว่าลูกปวดท้องที่บริเวณไหน ซึ่งบริเวณของไส้ติ่งอักเสบนั้นจะอยู่ที่ขวามือถัดจากสะดือ ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ในการตรวจสอบก็คือให้ลูกนำขวามือทั้ง 5 กางออกและนำนิ้วโป้งไปวางไว้ให้พอดีกับสะดือจากนั้นนำมืออีกสี่ทาบลงมาที่ท้องและดูที่นิ้วก้อยว่าอยู่ที่ส่วนไหน หากนิ้วก้อยอยู่บริเวณไหนและลูกปวดตรงนั้นก็สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนเพราะหากไส้ติ่งแตกแล้วก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นั่นเอง
โรคกระเพาะอักเสบ
เรียกได้ว่าโรคนี้เป็นโรคที่ยอดฮิตมาก ๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งก็มีสาเหตุมาจากการทานอาหารที่ไม่ตรงเวลาหรือการทานอาหารที่มีรสชัดจนเกินไป ซึ่งก็จะทำให้เกิดแก๊วในกระเพาะอาหารและทำให้ปวดท้องบริเวณช่วงกลางของทางซึ่งจะอยู่ที่ล่างหน้าอกของคุณนั่นเอง และอาการปวดท้องแบบนี้นั้นจะมีอาการจุกเสียดบริเวณหน้าอกร่วมด้วย ทำให้อาจเกิดอาการปวดหน้าอกและท้องพร้อม ๆ กัน ซึ่งก็สามารถที่จะหายได้เองโดยการทานยาที่มีฤทธิ์เย็นเพื่อลดกรดที่เกิดในกระเพาะอาหาร แต่หากปวดอย่างรุนแรงนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่ากระเพาะอหารอาจทะลุ ซึ่งก็จะทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร อาการแบบนี้จะปวดท้องอย่างรุนแรงมาก ๆ และจำเป็นจะต้องไปหาหมอโดยเร็วที่สุด
โรคลำไส้อักเสบ
สำหรับเด็กที่มีอาการปวดท้องแบบเกร็ง ๆ และมีอาการถ่ายบ่อยแบบวันละหลายครั้งจนคิดว่าเป็นท้องร่วงปกตินั้นต้องเช็คให้ดีค่ะ เพราะโรคนี้เรื่องของการปวดท้องจะมีความคล้ายกับใครเอามือมาบิดลำไส้ของเราเอาไว้และคลายออก เปรียบเสมือนกับเราที่จะบิดผ้าเปียกให้หมาด ซึ่งเมื่อเราบิดแล้วก็จะมีน้ำไหลออกมาและเมื่อรู้สึกว่าบิดหมาดแล้วเราก็จะปล่อยผ้าออก เนอีกหนึ่งอาการที่มีความทรมานมาก ๆ และในบางรายนั้นก็มีอาการอาเจียนร่วมอยู่ด้วยเพราะเนื่องจากอาการของการที่ลำไส้บิดนั้นจะสามารถเป็นไปได้สองทางคือทางทวารและทางปาก ทำให้ความรนแรงของโรคมีความแตกต่างกันออกไปนั่นเอง
และหากเป็นโรคลำไส้อักเสบนั้นก็ไม่รับประกันว่าการทายาจะสามารถที่จะช่วยเหลือในเรื่องี้ได้ดีเท่าไหร่ เพราะจากประสบการณ์คือการที่จะทำให้อาการนั้นหายได้คือการฉีดยาและการทานยาตามแพทย์สั่งและงดอาหารที่มีรสชาตอจัดทุกชนิดนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับอาการปวดท้องรูปแบบต่าง ๆ ที่เราได้นำมาแนะนำกัน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าการที่ ลูกปวดท้อง เนี่ยไม่ใชเรื่องเล่นๆ เลย อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะปล่อยปะละเลยได้เลยด้วย เพราะหากลูกปวดท้องติด ๆ กันเป็นเวลานาน ๆ นั้น อาจจะทำใหเกิดโรคที่เราไม่คาดคิกที่อาจทำให้ต้องทำการรักษาด้วยการฉีดยากหรือหากเป็นหนักมาก ๆ ก็จะต้องผ่าตัดกันเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ที่เป็น พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองนั้น จะต้องดูและบุตรหลานของทุกท่าน ๆ ให้ดีและหากลูกมีอาการปวดท้องก็ควรที่จะสอบถามให้อย่างละเอียดเพราะหากช้าเกินไปก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นั่นเอง
https://www.paolohospital.com/
อ่านต่อที่ ของใช้สำหรับเด็ก